ในปัจจุบันสแตนเลสได้ถูกใช้งานอย่างกว้างขวางมากขึ้น เพราะด้วยคุณสมบัติของสแตนเลสที่มีการใช้งานที่คงทน แต่ถึงแม้ว่าสแตนเลสจะขึ้นชื่อว่าเป็นวัสดุที่การใช้งานคงทนก็ตาม สแตนเลสก็จำเป็นที่จะต้องได้รับการทำความสะอาดพื้นผิวเป็นระยะๆเช่นกัน การหมั่นทำความสะอาดเป็นประจำเป็นวิธีการดูแลรักษาเชิงป้องกันทางหนึ่ง โดยความถี่ในการทำความสะอาดขึ้นอยู่กับเกรดของสแตนเลส พื้นผิว รูปทรง สภาพแวดล้อมในการใช้งาน
วิธีการขจัดคราบหรือรอยเปื้อนต่างๆโดยทั่วไปแยกได้ ดังนี้
-รอยนิ้วมือ ล้างด้วยน้ำสบู่ ผงซักฟอกหรือสารทำละลาย เช่น แอลกอฮอล์ หรือ อะซีโตน แล้วล้างออกด้วยน้ำเย็นจนสะอาด จากนั้นเช็ดให้แห้ง
-น้ำมันและจาระบี ล้างด้วยสารทำละลายอินทรีย์ ประเภทไฮโดร์คาร์บอน เช่น แอลกอฮอล์ จากนั้นล้างออกด้วยน้ำสบู่หรือผงซักฟอกอย่างอ่อนแล้วจึงล้างด้วยน้ำเย็นอีกครั้งให้สะอาดและเช็ดให้แห้ง ก่อนล้างควรแช่น้ำสบู่อุ่นๆสักพักจะช่วยทำให้ล้างออกได้ง่ายขึ้น
-สี ใช้แปรงไนลอนชนิดนุ่มจุ่มทินเนอร์ ขัดออกเบาๆ แล้วล้างออกด้วยน้ำเย็นแล้วเช็ดให้แห้ง
-เขม่าหรือคราบอาหาร ใช้น้ำยาทำความสะอาดที่มีส่วนผสมของแอมโมเนียเช็ด และล้างด้วยน้ำเย็นก่อนเช็ดให้แห้ง
-การเปลี่ยนสีอันเกิดจากความร้อน ใช้แผ่นขัดทำความสะอาดที่ไม่ใช่โลหะ และน้ำยาที่ไม่กัดกร่อนผิว เช่น บรัสโซ ขัดรอยด่างออก โดยขัดไปในทิศทางเดียวกันกับลักษณะการเคลือบผิววัสดุ ล้างออกด้วยน้ำเย็นและเช็ดให้แห้ง
-ฉลากและสติ๊กเกอร์ ให้แช่หรือลูบด้วยน้ำสบู่ร้อน ก่อนจะลอกฉลากและทำความสะอาดกาวที่ติดอยู่ออกด้วยเมทิลแอลกอฮอล์หรือน้ำมันเบนซิน ล้างออกด้วยน้ำสบู่หรือน้ำผสมผงซักฟอก ล้างอีกทีด้วยน้ำร้อน เช็ดให้แห้ง
-รอยน้ำ ตะกรัน รอยที่เห็นได้ชัดสามารถลดเลือนได้โดยแช่ในน้ำส้มสายชู 25%หรือกรดไนตริก 15% จากนั้นล้างออกด้วยน้ำสะอาด ตามด้วยน้ำสบู่หรือน้ำผสมผงซักผอก และล้างออกอีกครั้งให้สะอาดด้วยน้ำร้อน เช็ดให้แห้งด้วยผ้าสะอาดเนื้อนุ่ม
-สารแทนนินจากชาหรือกาแฟ ล้างด้วยน้ำร้อนผสมโซดาซักผ้า(โซเดียมไบคาร์บอเนต)จากนั้นล้างด้วยน้ำสบู่หรือน้ำผสมผงซักฟอก และล้างออกให้สะอาดด้วยน้ำร้อนเช็ดให้แห้งด้วยผ้าเนื้อนุ่ม
-คราบสนิม แช่ส่วนที่ขึ้นสนิมในน้ำอุ่นผสมสารละลายกรดไนตริกในสัดส่วน 9:1 เป็นเวลา1ชั่วโมง จากนั้นล้างออกด้วยน้ำสะอาดหรือทาพื้นผิวที่ขึ้นสนิมด้วยสารกรดออกซาลิก ทิ้งไว้ประมาณ20นาที จากนั้นล้างออกด้วยน้ำเย็นและเช็ดให้แห้ง หรือในกรณี ของคราบที่ติดทนและยากต่อการกำจัด อาจต้องใช้เครื่องจักรช่วยขัดทำความสะอาด
การดูแลรักษา
1.หากไม่ได้ทำความสะอาดเป็นประจำ ควรทำความสะอาดทันทีที่พบรอยเปื้อนและฝุ่น
2.การทำความสะอาดควรเริ่มจากวิธีและผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดที่อ่อนที่สุดก่อนเสมอ และทดลองทำความสะอาดเป็นบริเวณเล็กๆก่อนเพื่อให้มั่นใจถึงผลลัพธ์
3.ใช้น้ำอุ่นเพื่อช่วยขจัดความมันหรือจาระบี
4.ขั้นตอสุดท้ายของการทำความสะอาดล้างและเช็ดให้แห้งด้วยผ้าเนื้อนุ่มหรือกระดาษชำระแผ่นใหญ่ทุกครั้ง
สิ่งที่ควรหลีกเลี่ยงกับสแตนเลส
1.อย่าเคลือบสแตนเลสด้วยขี้ผึ้ง หรือสารที่มีความมัน เพราจะทำให้ฝุ่นหรือรอยเปื้อนติดบนพื้นผิวได้ง่ายขึ้นและทำความสะอาดอกได้ยาก
2.อย่าใช้ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดที่มีส่วนผสมของคลอไรด์และเฮไลด์ เช่น โบรไมน์ ไอโอดีนและฟลูออรีน
3.อย่าใช้น้ำยาฆ่าเชื้อโรค ทำความสะอาดสแตนเลส
4.อย่าใช้กรดไฮโดรคลอริค ในการทำความสะอาด เพราะจะเกิดการกัดกร่อนแบบรูเข็มและแบบเป็นรอยร้าวได้
5.อย่าใช้ผลิตภัณฑ์ที่ไม่แน่ใจ
6.อย่าใช้น้ำยาทำความสะอาดเครื่องเงิน
7.อย่าใช้ปริมาณสบู่และผงซักฟอกมากเกินไปในการทำความสะอาด เพราะอาจทิ้งคราบไว้บนพื้นผิวได้
8.อย่าทำความสะอาดส่วนที่มีคราบฝังแน่นในขั้นตอนเดียว ควรทำความสะอาดเบื้องต้นก่อนกำจัดคราบ